จริงอยู่ที่ว่ามีสถานที่มากมายที่ใช้อยู่อาศัยแทนบ้านได้ แต่เมื่อบ้านกลายเป็นตัวเลือกหลักที่ผู้คนนิยมสร้างใช้อยู่อาศัย วันนี้เพจของเราจึงอยากนำเสนอแบบบ้านโมเดิร์นหลังหนึ่งให้ทุกคนได้ชมเป็นแนวทาง สำหรับใครที่ชื่นชอบและมีแผนจะสร้างบ้าน สามารถนำไปใช้เป็นตัวอย่างแบบบ้านของตนได้
บ้านหลังนี้ถูกสร้างมาด้วยสไตล์โมเดิร์น ตัวบ้านมีชั้นเดียวยกพื้นสูง ใต้ถุนโล่ง ภายในประกอบด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องโถง และ 1 ห้องครัว ด้วยงบก่อสร้าง 600,000 บาท เจ้าของบ้านคุณ Nong Mingolo ระบุว่า “ใช้ระยะเวลาเกือบ 5 เดือน” ซึ่งรายละเอียดที่น่าสนใจของบ้านมีดังนี้
บรรยากาศรอบบ้านเงียบสงบ ตัวบ้านยกพื้นสูงใต้ถุนโล่ง ผนังแต่งด้วยสีฟ้า บริเวณด้านหน้ามีลูกเล่นเป็นกระเบื้องอิฐ บริเวณใต้ชายคากรุมทับด้วยไม้ฝาเฌอร่า หลังคาซ้อนชั้นเป็นทรงเพิงแหงนมุงเมทัลชีทสีเทา ขอบเชิงชายสีเหลืองทำให้บ้านมีสีสัน บันไดปูทับด้วยกระเบื้องสีเทาพร้อมสร้างราวจับ ส่วนประตูเข้าบ้านและหน้าต่างกระจก มีขอบเด่นเป็นสีขาว
เปิดประตูเข้ามาภายในจะเห็นกับห้องโถงรับแขก ห้องนี้ปูพื้นด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว ผนังสีขาวสว่างแต่งขอบด้วยวงกบไม้ ฝ้าเพดานเลือกใช้แบบหลุมพร้อมติดตั้งโคมไฟ ห้องนี้เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนรวมตัวกัน หรือรองรับแขกที่มาเยือน
ช่องทางเดินในบ้านมีขนาดพอเหมาะ ห้องนอนทั้งสองตั้งอยู่ติดกัน ประตูห้องบานไม้น้ำตาลตัดกับสีผนังได้อย่างชัดเจน พื้นห้องเป็นกระเบื้องลายโทนน้ำตาล ผนังสีฟ้าอ่อนสดใส หน้าต่างแขวนผ้าม่านสีน้ำตาลไว้เพื่อช่วยบดบังแสงแดด
ห้องน้ำ ปูพื้นกันลื่นด้วยกระเบื้องเรียบสีเทา ผนังห้องกรุทับด้วยกระเบื้องเรียบสีขาว ตรงกลางก่อผนังเพื่อแบ่งโซนการใช้งาน และติดตั้งสุขภัณฑ์ตามจุดต่างๆอย่างเหมาะสม
สุดท้ายเป็นห้องครัว อยู่โซนด้านหลังของบ้านและมีพื้นที่ต่างระดับลงมา ครัวนี้กั้นด้วยประตูไม้ บันไดที่ใช้กรุทับด้วยกระเบื้องสีเทา และมีราวจับเพื่อความปลอดภัย ผนังห้องทาทับด้วยสีเหลือง ตรงมุมก่อเคาน์เตอร์ทรงตัวแอลไว้ใช้งาน ด้านบนติดตั้งซิงค์ล้างจาน ส่วนด้านล่างออกแบบให้เป็นตู้เก็บของ
จบไปแล้วนะคะกับแบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียวหลังนี้ ที่สร้างและออกแบบเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะชอบและได้ไอเดียดีๆไปใช้ สำหรับใครที่จะนำไปใช้เป็นแบบอย่าง งบประมาณในการสร้างอาจจะเปลี่ยนแปลงจากที่เรานำเสนอ ขึ้นอยู่กับค่าวัสดุและค่าระยะทางในเขตพื้นที่ก่อสร้างด้วยค่ะ
ขอบคุณที่มา: เฟซบุ๊ก Nong Mingolo