บ้านหลังเล็กกะทัดรัด พื้นที่ใช้สอย 67 ตร.ม. ขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ

เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างบ้านชั้นเดียวหลังเล็กที่สร้างมาด้วยทรงโมเดิร์น  รูปแบบบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งมีโครงสร้างที่เรียบง่าย สะดวกสบายต่อผู้ที่อยู่อาศัย และประหยัดงบในการสร้างเมื่อเทียบกับความสวยของตัวบ้าน

สำหรับบ้านหลังนี้โมเดิร์นหลังนี้มีฟังกืชันภายในที่ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว ส่วนหน้าบ้านเป็นระเบียงสำหรับพักผ่อน พื้นที่ใช้สอยของบ้านมี 67 ตารางเมตร ใช้งบประมาณในการสร้างรวมทั้งค่าของและค่าแรง 402,000 บาท รายละเอียดของบ้านจะเป็นอย่างไรนั้น เชิญติดตามรับชมได้เลยค่ะ

เริ่มจากลักษณะภายนอกของบ้าน เนื่องจากบ้านยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร จึงมีบันไดก่อขึ้นบ้านขนาด 3 ขั้น ตัวบ้านเป็นสีม่วงแต่งขอบและเสาด้วยสีขาวอย่างโดดเด่น หลังคาทรงเพิงแหงนมุงเมทัลชีท พร้อมติดตั้งฝ้าชายคา ประตูหน้าบ้านและหน้าต่างเป็นบานกระจกที่ทันสมัยและมีขอบเป็นสีขาว

หน้าบ้านต่อหลังคายื่นออกมาเพื่อเป็นระเบียง ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยขนาดกว้าง เหมาะสำหรับใช้เป็นที่พักผ่อนหรือรองรับแขกนอกตัวบ้าน พื้นปูทับด้วยกระเบื้องอย่างดี รอบๆกั้นด้วยเหล็กระแนงสีขาว ตรงกลางฝ้าเพดานมีโคมไฟประดับไว้เพื่อให้จุดนี้สว่างในยามค่ำคืน

ห้องโถงในบ้าน ออกแบบเน้นความเรียบง่าย กระเบื้องที่ปูพื้นเป็นโทนสีเทาแบบระเบียง ผนังห้องสีม่วงอ่อนถูกตัดฐานขอบล่างด้วยไม้แถบสีขาว ฝ้าเพดานเป็นแบบเรียบสีขาวเน้นความเรียบง่าย ประตูห้องต่างๆในบ้านเป็นบานไม้สีขาวเช่นกัน

ภายในห้องนอน ออกแบบให้เป็นสไตล์เดียวกับห้องโถง หน้าต่างกระจกใสรับแสงธรรมชาติช่วยให้ภายในสว่าง และมีอากาศที่ถ่ายเทสะดวก ไม่เหม็นอับ

ห้องน้ำมีพื้นที่ใช้สอยขนาดกว้าง กระเบื้องที่นำมาใช้แต่งห้องเป็นโทนสีขาวกับน้ำตาล ติดตั้งสุขภัณฑ์ที่ครบครัน ผนังที่ก่อแบ่งโซนการใช้งานด้านบนต่อด้วยบล็อกแก้ว ที่ผนังติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้งไว้คอยระบายอากาศ

สุดท้ายเป็นห้องครัว ขนาดพื้นที่ในห้องทำอาหารได้อย่างสะดวก เคาน์เตอร์ครัวทรงตัวแอลที่อยู่ติดผนังแต่งด้วยกระเบื้องม่วงโทนเข้ม ด้านบนติดตั้งซิงค์ล้างจาน มีเตาแก๊ส และด้านล่างใช้งานเป็นตู้เก็บของ

จบไปแล้วนะคะกับแบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียวโทนสีม่วง-ขาวหลังนี้ เป็นบ้านที่ออกแบบเน้นความเรียบง่าย เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก และคนที่ต้องการสร้างบ้านในงบที่จำกัน ดังนั้นหากใครที่ชื่นชอบหรือสนใจ ติดต่อสอบถามได้จากที่มาด้านล่างค่ะ

ขอบคุณที่มา: เฟซบุ๊ก Phonnapha Ketsin‎