บ้านที่เป็นสถานที่อาศัยอยู่ร่วมกันของคนในครอบครัว แน่นอนว่าใครๆก็อยากได้บ้านสวย และที่สำคัญสะดวกต่อการใช้ชีวิต วันนี้เพื่อเป็นอีกหนึ่งแนวทางให้กับคนอยากสร้างบ้าน เรามีไอเดียบ้านชั้นเดียวสไตล์โมเดิร์นที่เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กมาฝาก
สำหรับบ้านหลังนี้เป็นอีกหนึ่งหลังที่สร้างมาด้วยสไตล์โมเดิร์น ตัวบ้านมีขนาดชั้นเดียว ตกแต่งด้วยสีขาวสว่าง ภายในแบ่งสร้างเป็น 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องโถง ส่วนภายนอกมีระเบียงกับโรงจอดรถ ทั้งหมดมีพื้นที่ใช้สอย 90 ตารางเมตร และจบด้วยงบก่อสร้าง 870,000 บาท เจ้าของผลงานคุณ Yeen Rungtiwa ระบุว่า “รับสร้างทั่วภาคอีสาน” ดังนั้นหากทุกท่านพร้อมแล้ว เราไปชมรายละเอียดพร้อมกันเลยค่ะ
บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ที่ ต.ลอมคอม อ.พล จ.ขอนแก่น ภายนอกแต่งผนังด้วยสีขาวสว่าง และตัดด้วยสีเทาของไม้ฝาที่กรุทับบริเวณใต้ชายคา หลังคาทรงเพิงแหงน มุงด้วยเมทัลชีทสีเทาเช่นกัน หน้าบ้านต่อหลังคาเป็นระเบียง โดยแต่งตรงกลางของเสาด้วยกระเบื้องอย่างโดดเด่น รอบๆกั้นด้วยเหล็กระแนงสีดำ ส่วนโรงจอดรถที่สร้างไว้ด้านข้าง ถูกเทพื้นด้วยคอนกรีตรวมถึงพื้นรอบๆบ้าน เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน
ประตูหน้าบ้านและหน้าต่าง เลือกใช้เป็นบานกระจกที่ทันสมัย พร้อมแต่งขอบรอบๆด้วยบัวปูนสีเทาอีกที จุดแรกของภายในที่เปิดประตูเข้ามาเจอคือห้องโถงขนาดกว้าง โดยปูพื้นด้วยกระเบื้องมันวาวโทนน้ำตาล ผนังแต่งเป็นสีเทาอ่อนๆ ส่วนฝ้าเพดานเลือกใช้แบบหลุม ด้านข้างมีที่สร้างเป็นห้องนอน เลือกใช้ประตูไม้สีขาววงกบน้ำตาลสำหรับใช้เป็นประตูทางเข้า
ห้องน้ำ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่สำคัญของบ้าน ประตูห้องเป็นบาน PVC ที่มีสีสันและลวดลายน่ารัก ภายในปูพื้นกันลื่นด้วยกระเบื้องโทนน้ำตาล ผนังเป็นกระเบื้องสีขาวที่แต่งสลับกับสีดำ ตรงกลางก่อผนังแบ่งกั้นโซนอาบน้ำ จากนั้นติดตั้งสุขภัณฑ์ตามจุดต่างๆอย่างลงตัว
ห้องครัว ถูกสร้างให้โซนด้านหลัง พื้นที่ใช้สอยมีขนาดพอเหมาะ เคาน์เตอร์ตรงมุมห้องแต่งด้วยกระเบื้องสีน้ำตาลล้วน โดยมีซิงค์ล้างจานติดตั้งไว้ด้านบน และด้านล่างใช้งานเป็นตู้เก็บของ ที่ผนังมีตู้ลอยจำนวนหลายบาน และในขณะประกอบอาหาร สามารถเปิดระบายอากาศได้ทั้งทางหน้าต่าง และประตูหลังบ้าน
จบไปแล้วนะคะกับการนำเสนอบ้านโมเดิร์นชั้นเดียวหลังนี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ออกแบบและสร้างออกมาได้อย่างลงตัว ดังนั้นหากใครที่ชื่นชอบ และอยากมีบ้านหลังสวยๆแบบนี้ไว้ครอบครอง ติดต่อสอบถามได้จากที่มาด้านล่างค่ะ
ขอบคุณที่มา: เฟซบุ๊ก Yeen Rungtiwa